Explore

เที่ยวปักกิ่งเทียนจินแบบไม่รู้ภาษาจีน

Share this article

วันนี้มาเล่าประสบการณ์เที่ยวจีนแบบครั้งแรกๆ ที่ไม่รู้ภาษาจีน เอาละ เราอยากไปเที่ยวปักกิ่ง เที่ยวเมืองหลวงจีน ดูอารยธรรมอันเก่าแก่ วัตถุโบราณสิ่งก่อสร้างใหญ่โตมโหฬาร เช่น กำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม พระราชวังฤดูร้อน พระราชวังเทียนถาน และที่ที่ดูทันสมัยใจกลางเมืองปักกิ่ง เราไปกันเลยดีกว่ากับทริป เที่ยวปักกิ่ง เทียนจิน แบบไม่รู้ภาษาจีน

เริ่มกันตั้งแต่ซื้อตั๋วเครื่องบิน ถ้าเราลงเมืองเทียนจิน แล้วนั่งรถไฟความเร็วสูงจะใช้เวลาแค่ 27 นาที กับระยะทาง 150 กว่ากิโลเมตร ในใจคิดว่าคงซื้อตั๋วแบบง่ายๆ แบบ BTS บ้านเรา เราก็ลงเทียนจินสิ ได้เที่ยวอีกเมือง เทียนจินเป็นเมืองการศึกษาและเมืองท่าที่สำคัญของจีน รวมทั้งเป็น 1 ใน 4 มหานครที่ขึ้นกับส่วนกลาง ซึ่งประกอบไปด้วย ปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ และ ฉงชิ่ง ซึ่งปัจจุบันไปมาครบทั้ง 4 มหานครแล้ว แต่ตอนนี้จะเล่าตอนไปเที่ยว เทียนจิน และ ปักกิ่ง ให้ฟังกันครับ

สรุปเราซื้อตั๋วไปเทียนจิน และไปต่อกันที่เมือง ปักกิ่ง กัน เราก็เตรียมทำวีซ่าให้พร้อม แล้วไปกันเลย บินตรงสู่เทียนจิน ไปถึงตามแผนเราจะนั่งรถไฟไปปักกิ่งกันเลย เพราะถึงเทียนจินประมาณ 3-4 โมงเท่าที่จำได้ เอาละถึงเมืองเทียนจิน ลงจากเครื่องบินไม่มีคนไทยเลย สุดยอดพระเจ้าจอห์น ไปไหนต่อละที่นี่ หลังจากเอากระเป๋าออกมา ก็หันซ้ายหันขวา ไปทางไหนหว่า เราก็เดินไปตามทางสถานีรถไฟใต้ดิน จุดหมายเพื่อจะไปที่สถานีรถไฟความเร็วสูง เอาละไปถึงทางเข้า ซื้อตั๋วต้องใช้เงินหยวนที่เป็นเหรียญใช้เงินสดแบงค์ร้อยหยวนไม่ได้ เอ้าละทำไงละที่นี่ ก็หาที่แลกเหรียญ ตอนนั้นคนจีนส่วนมากใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์กัน เราจะจ่ายเงินเพื่อนั่งรถไฟใต้ดินแต่ไม่มีเหรียญ หาที่แลกก็ไม่มี ทำไงละหว่า มองซ้ายแลขวา เห็นหญิงสาวจีน2คน ถือถุงคิงเพาเวอร์ เอาละ เดินเข้าไปถามเขาว่าที่แลกเงินอยู่ตรงไหน บอกว่าเป็นคนไทย พูดภาษาอังกฤษนะ โชว์เงินในกระเป๋าแบงค์ร้อยหยวนเป็นปึกๆ สรุปสองสาวใจป๋าครับ ให้เงินค่ารถไฟผมสุดยอด ใจดีจริงๆแถมบอกให้ระวังเงินด้วย แต่ลืมไปยังไม่กล้าขอ wechat ตอนนั้น ฮาาาา เอาละไปกันต่อ เมื่อไปถึงสถานีรถไฟความเร็วสูง เอาละหว่า ซื้อตั๋วยังไง คนเยอะมากมาย สถานีใหญ่โตมโหฬาร คนเยอะแยะไปหมด ผมก็ไปยืนดูว่าเขาทำอะไรที่ตู้กัน ปรากฎว่าคนจีนใช้บัตรประชาชนซื้อตั๋วผ่านตู้กัน ต่อแถวกันยาวเชียว แต่คนต่างชาติต้องไปซื้อตั๋วที่ไหน ผมไม่รู้เลยบอกตรง จะทำไงมองซ้ายมองขวา สงสัยต้องหาคนพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วจะหาจากที่ไหนกัน ผมเลยไปยืนกลางเส้นทางที่คนเดินกันไปมา มองหาว่าใครน่าจะพูดภาษาอังกฤษ excuseme can you speak english พูดแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนไปเจอหนุ่มจีนหน้าตาดูอินเตอร์ ตอบมา i can โอเค ได้คนช่วยละ หนุ่มคนจีนพาเราฝ่าฝูงชนไปซื้อตั๋วที่เคาเตอร์แถวยาวเชียว เขาบอกเราว่า มีตั๋วแต่เป็นรอบสุดท้าย คือ เที่ยงคืน เอาๆๆ ยังดีที่ทันเพราะจองโรงแรมไว้ที่ปักกิ่ง จากนั้นก็พาเราไปที่จุดขึ้นรถไฟ แล้วก็จากไป เขาบอกว่าเขาจะขึ้นรถไฟไม่ทันแล้ว ลำลา ผมก็ขอ wechat เอาไว้ ฮาา

เรื่องราวยังไม่จบครับ เราก็รอ รอ รอ จนถึงรอบของเราใกล้ๆเที่ยงคืน ได้ขึ้นรถไฟความเร็วสูง รถไฟนิ่งและตรงเวลามาก ความเร็วสัก 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงตรงเวลาเป๊ะ คนเยอะแยะอีกแล้ว สถานีใหญ่โต มันคือเมืองหลวงจีน ตอนนั้นเที่ยงคืนแล้ว ปรากฎว่ารถไฟใต้ดินปิดแล้ว เอาละหว่า จะทำไงละที่นี่ ที่เตรียมมาอย่างละเอียดมาก คือ นั่งรถไฟใต้ดินสถานีไหนไปลงที่ไหนออกทางออกอะไร แล้วเดินไปทางไหน เพื่อไปถึงโรงแรม แต่ ปรากฎตอนนี้รถไฟใต้ดินปิด ฮาาา ภาษาจีนก็ไม่รู้ ทางด้านบนถนนไม่ได้ทำการบ้านไรมาเลยยยย โอเย้ สู้ต่อไปหา taxi กัน คนต่อแถวรอ taxi นานมาก รอกันเป็นชั่วโมง กว่าจะถึงคิว คนขับดูชื่อโรงแรมเราก็บอกว่า เขารู้จักแถวๆนั้น ไม่รู้จักโรงแรม ตีความจากภาษามือ ภาษากาย ภาษาจีนฟังไม่รู้เรื่องครับ ไปกันต่อ คนขับเป็นหนุ่มยังเด็กๆ มีโทรศัพท์ติดด้านหน้ารถสัก3-4เครื่อง มีวิทยุสื่อสารอีก ในใจก็คิดจะเหมือน taxi ที่ไทยป่าวนะพาเราไปอ้อม 555 แต่ไม่ครับไปตรงๆ พาเราไปลงกลางสี่แยกแถวๆโรงแรม ตอนตีสองที่ปักกิ่ง โอวเย้ เดินเข็นกระเป๋าหาโรงแรมกันตอนดึก ในที่สุดก็เจอครับ เฮ้อ วันแรกถึงโรงแรมแล้ว… สุดยอดไหมครับ เทียนจิน ปักกิ่ง วันแรก

Loading