อิสรภาพทางการเงิน financial independence

Share this article

อิสรภาพทางการเงิน financial independence คงเป็นความฝันของใครหลายคนที่อยากมีทั้งเวลาและมีเงินในการทำสิ่งที่ตัวเองปรารถนาไว้ โดยไม่ต้องเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ

อิสรภาพทางการเงิน financial independence

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจรูปแบบของรายได้ก่อน รายได้มี 2 รูปแบบ

  • Active Income รายได้ที่ต้องลงมือลงแรงและใช้เวลาในการทำงานถึงจะได้เงินมา การได้มาของรายได้ทางนี้ จะต้องใช้เวลาในการทำงาน หากหยุดก็จะไม่ได้เงินมา พูดง่ายๆคือ ทำงานแลกเงิน ถ้าไม่ทำไม่ได้เงิน ตัวอย่างเช่น
    • พนักงานประจำ ต้องไปทำงานเข้าออกตามเวลา วันจันทร์ถึงวันศุกร์ หากไม่ทำก็ไม่ได้รับเงินเดือน
    • เจ้าของร้านค้า ต้องไปเปิดปิดร้านเป็นประจำ หากไม่เปิดร้านก็ไม่มีรายได้เพราะลูกค้าไม่สามารถมาซื้อสินค้าหรือบริการได้
    • งานที่ปรึกษา ต้องใช้เวลาและสมองในการวิเคราะห์ข้อมูลและทำออกมาเป็นรายงาน เพื่อหาคำตอบให้กับลูกค้า
    • แพทย์ ต้องใช้เวลาไปทำงานเพื่อรักษาผู้ป่วย ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เงิน
    • วิศวกรคอมพิวเตอร์ ต้องใช้เวลาเขียนโค้ดแอพพลิเคชั่น ตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย พัฒนาระบบตามกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เงิน
  • Passive Income รายได้ที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ต้องลงมือ ลงแรง ใช้เวลาในการทำงาน หรือ ใช้น้อยสุด ถ้าดีคือไม่ต้องทำงานเลย ยกตัวอย่างเช่น
    • อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า การให้เช่าที่ดิน อาคาร บ้าน สถานที่ คอนโด เมื่อมีคนมาเช่าแล้วต้องจ่ายเงินให้กับเราในทุกๆเดือน หรือ ทุกๆปีแล้วแต่ตกลงตามสัญญา
    • ลิขสิทธิ์ licensing การทำหนังสือขาย การถ่ายภาพแล้วขายออนไลน์ การทำคอร์สสอนออนไลน์ การทำภาพยนตร์ และอื่นๆ
    • การฝากธนาคาร คือนำเงินไปฝากธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ย มีความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนต่ำเช่นเดียวกัน เช่น ฝากเงินประจำ สมมุติดอกเบี้ย 2% ในทุกๆปีก็จะได้รับดอกเบี้ย 20,000 บาท จากเงินต้น 1 ล้านบาท
    • การลงทุนในหุ้น คือ การนำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของบริษัท เมื่อบริษัทได้กำไรและมีนโยบายจ่ายเงินปันผลทุกปี สมมุติ เมื่อเราลงทุนในหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น เงินปันผลต่อหุ้น 5 บาท เราจะได้เงินปันผลจำนวน 5,000 บาทแต่รายได้ไม่แน่นอน หากปีไหน บริษัทรายได้ไม่ดี หรือ ขาดทุน ก็อาจจะจ่ายเงินปันผลน้อยลงหรือไม่จ่ายก็ได้
    • การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตัวอย่าง เมื่อเราลงทุนซื้อพันธบัตรรัฐบาล 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5% เมื่อถือพันธบัตรไว้ครบ 5 ปีก็จะได้ดอกเบี้ยส่วนนั้น การลงทุนวิธีนี้ค่อนข้างมั่นคงแต่ผลตอบแทนไม่สูง
    • การลงทุนกองทุนรวม หากเรายังไม่มีพื้นฐานมากนักในการลงทุน หรือ ไม่มีเวลาดูพอร์ตการลงทุนเอง ก็อาจใช้การลงทุนผ่านกองทุนเพื่อให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพจัดการลงทุนแทนเรา

การลงทุนเพื่อสร้าง Passive Income ในแต่ละวิธีมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป ดังคำที่ว่า High Risk High Expected Return คือ ความเสี่ยงมาก ความคาดหวังต่อผลตอบแทนก็มากตามไปด้วย โดยทั่วไป ถ้าเราอยากได้ผลตอบแทนมาก ก็จะมีความเสี่ยงมากตามไปด้วย

อิสรภาพทางการเงิน financial independence คืออะไร? การมีอิสรภาพทางการเงินคือการที่ตัวเรามีสินทรัพย์ที่สร้างรายได้โดยที่ตัวเราเองไม่ต้องใช้แรงหรือเวลา เพื่อไปสร้างรายได้โดยตรง และรายได้ที่ได้รับ มีค่าเท่ากับ หรือ มากกว่า รายจ่ายที่ต้องใช้จ่าย ถือว่าเรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว กล่าวคือ เรานอนอยู่บ้านเฉยๆ ไปเที่ยวรอบโลก จะไปทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่เราชอบ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเครียดกังวลกับงานที่สร้างรายได้เพื่อการเลี้ยงชีพอีกต่อไป

ตัวอย่าง

อิสรภาพการเงิน = รายได้จากสินทรัพย์สร้างรายได้ Passive – ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

  1. ถ้าค่าเท่ากับศูนย์ มีอิสรภาพทางการเงิน แต่ไม่มีเงินเหลือไปใช้อย่างอื่น

อิสรภาพทางการเงิน = 0 = 100,000 (passive income) – 100,000 (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด)

2. ถ้าค่าเป็นบวกมากๆ มีทั้งอิสรภาพทางการเงิน และมีเงินเหลือเพิ่มเติมไปใช้จ่ายทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ

อิสรภาพทางการเงิน = 900,000 = 1,000,000 (passive income) – 100,000 (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด) มีอิสรภาพทางการเงินแล้ว ยังมีเงินเหลือใช้อีกเดือนละ 900,000 บาท

3. ถ้าค่าติดลบ แสดงว่ายังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน

อิสรภาพทางการเงิน = -50,000 = 50,000 (passive income) – 100,000 (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด)

อัตราส่วนในการวิเคราะห์ความมีอิสรภาพทางการเงิน

อิสรภาพทางการเงิน = รายได้จากสินทรัพย์สร้างรายได้ Passive / ค่าใช้จ่ายทั้งหมด

  1. ค่าเท่ากับ 1 มีอิสรภาพทางการเงินแล้ว

100,000 (passive income) / 100,000 (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด) = 1

2. ค่ามากกว่า 1 มีอิสรภาพทางการเงิน แล้ว มีเงินเหลืออีก ยิ่งมากยิ่งดี

1,000,000 (passive income) / 100,000 (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด) = 10

3. ค่าน้อยกว่า 1 คุณยังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน

50,000 (passive income) / 100,000 (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด) = 0.5

สรุป วีโคสรุปได้ว่าการมีสินทรัพย์ที่สร้างรายได้แบบไม่ต้องลงมือลงแรงลงเวลาซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เรามากกว่าหรือเท่ากับรายจ่ายทั้งหมดที่มี แค่นี้คุณก็มีอิสรภาพทางการเงินแล้ว เย้ 🙂

ขอขอบคุณ

 1,900 total views,  1 views today

Leave a Reply

Your email address will not be published.