EP06 วีโค พาเที่ยวจุดสูงสุดของประเทศไทย ดอยอินทนนท์

Share this article

เส้นทางของทริปนี้ กรุงเทพมหานคร > จังหวัดกำแพงเพชร วัดพระบรมธาตุนครชุม (พระซุ้มกอ) > จังหวัดตาก ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช > จังหวัดลำปาง พระธาตุลำปางหลวง (นักษัตรปีฉลู) > UNSEEN พระธาตุลำปางหลวงกลับหัว > จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอจอมทอง > อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ > น้ำตกวชิรธาร > น้ำตกสิริธาร > ลานกางเต็นท์ดงสน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ > ซากุระเมืองไทย ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) > จุดสูงสุดแดนสยาม > พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ > พระธาตุดอยสุเทพ (นักษัตรปีมะแม) > พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ > อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย > ยอดดอยแห่งดอกนางพญาเสือโคร่ง ขุนช่างเคี่ยน > หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ > จังหวัดเชียงใหม่ พระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร > จังหวัดลำพูน วัดมหาวัน (พระรอด) > จังหวัดลำพูน พระธาตุหริกุญชัย (นักษัตรปีระกา) > จังหวัดพิษณุโลก วัดนางพญา (พระนางพญา) > จังหวัดพิษณุโลก พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร > กรุงเทพมหานคร

รอบนี้วีโคจะพาไปเที่ยวกันโดยระยะทางรวม 1,762.6 กิโลเมตร ตามเส้นทางด้านบน เป็นเส้นทางที่เดินทางไกลไปทางด้านเหนือของประเทศไทย โดยส่วนมากจะเป็นทางขึ้นเขาลาดชันคดเคี้ยว ที่สำคัญบางที่ยังไม่เคยไปและยังไม่เคยขับรถไปด้วยตัวเอง เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า! เริ่มต้นเดินทางจาก กรุงเทพมหานครแต่เช้ามืดประมาณ 6 โมงเช้า เส้นทางที่เราจะไปกันวันนี้วางแผนไว้โดยประมาณ 400 กิโลเมตร เราออกเดินทางแต่เช้าจุดแรกที่เราแวะพักระยะทางโดยประมาณ 334 กิโลเมตร คือ จังหวัดกำแพงเพชร วัดพระบรมธาตุนครชุม เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มีโอกาสไปไหว้พระทำบุญซึ่งเงินทำบุญจะถูกนำไปซื้อที่ดินเพื่อขยายพื้นที่วัดต่อไป ได้พระเครื่องพิมพ์พระซุ้มกอมาเป็นที่ระลึก ซึ่งพระซุ้มกอเป็นหนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย บริเวณใกล้ๆวัดมีเมืองโบราณน่าไปชมอยู่อาจต้องใช้เวลาเป็นวันแต่แผนวันนี้เราต้องเดินทางไปต่อให้ถึงจังหวัดตาก

วัดพระบรมธาตุนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร “ผิผู้ใดได้ไหว้นบกระทำบูชาพระศรีรัตมหาธาตุและพระศรีมหาโพธิ์นี้ว่าไซร้ มีผลอานิสงส์พร่ำเสมอดังได้นบพระผู้เป็นเจ้า” เป็นตำนานที่มาของงานประเพณี “นบพระเล่นเพลง” ในวันมาฆบูชาของจังหวัดกำแพงเพชร พระบรมธาตุนครชุม มหาเจดีย์ทรงสูงใหญ่ สวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมและสีทองอร่ามทั้งองค์ เสมือนดั่งเจดีย์ชเวดากองในเมืองพม่า พระบรมเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 องค์จากประเทศศรีลังกาพญาลิไททรงประดิษฐานไว้เมื่อปี พ.ศ. 1900 ชาวกำแพงเพชรมีความศรัทธาต่อองค์พระธาตุและมีความเชื่อดังจารึกที่ว่า เมื่อได้เข้าไปนมัสการและบูชาแล้ว ดังได้นบกับพระพุทธเจ้าด้วยตนเอง เป็นพระบรมธาตุเจดีย์อยู่คู่เมืองกำแพงเพชร มาตั้งแต่สมัยเป็นเมืองนครชุมเป็นเวลายาวนานกว่า 600 ปี และยังคงยั่งยืนสืบต่อกันมาเป็นองค์มหาเจดีย์แห่งศรัทธาจวบจนปัจจุบัน

จากนั้นวีโคเดินทางต่อไปยังจังหวัดตาก วันนี้เราจะพักที่นี้กันก่อนเพื่อไม่ให้การเดินทางนั้นหักโหมเกินไป (ไปกันแบบหวานเย็นสักนิดจิตแจ่มใส…) จะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไปและเมื่อถึงจังหวัดตากก็ไปไหว้ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้นก็แวะพักรับประทานmkที่โลตัสจังหวัดตากกันก่อนแล้วเข้าที่พักเพื่อเก็บแรงเดินทางต่อวันรุ่งขึ้น วันรุ่งขึ้นเราเดินทางกันต่อไปไหว้พระธาตุลำปางหลวงก่อนแล้วไปเข้าที่พักที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมขึ้นดอยอินทนนท์วันรุ่งขึ้น

วันนี้วีโคเดินทางขึ้นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เส้นทางลาดชันคดเคี้ยว ค่าเข้าผู้ใหญ่ 50 บาท ค่ารถ 30 บาท (ผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าฟรี) ดอยอินทนนท์ อยู่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ผืนป่าใหญ่ธรรมชาติสวยงามบนเขาสูงอากาศเย็นสบาย ที่นอกจากจะมียอดดอยที่มีป้ายบอกว่าเป็น จุดสูงสุดแดนสยามแล้ว หรืออธิบายง่ายๆคือเป็นจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยระดับความสูง 2,565.3341 เมตร จากระดับน้ำทะเล ดอยอินทนนท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และน้ำตกสวยๆอีกหลายแห่งเลยทีเดียว จุดแรกที่แวะเที่ยวดูคือ น้ำตกวชิรธาร สวยงามใหญ่โต แถมมีสายรุ้งขึ้นอีกต่างหาก ถือว่าเป็นน้ำตกที่น่าดูน่าชมสวยงามสมกับเวลาที่เดินทางขึ้นดอยอินทนนท์ ยืนดูถ่ายภาพนานอยู่พอสมควร ตัวเริ่มเปียกเพราะน้ำตกแรงละอองน้ำกระเด็นมาเยอะ เย็นฉ่ำสดชื่นสวยงาม วีโคเดินดูทั้งตรงกลาง เมื่อเดินไปถึงจะไปอยู่ที่ตำแหน่งกลางก่อน จากนั้นเดินขึ้นไปด้านบนเป็นอีกมุมมองที่สวยงามได้เห็นน้ำตกใกล้ขึ้นมุมสูงขึ้น และเดินลงด้านล่างเป็นมุมที่จะเห็นน้ำตกแบบเต็มๆชัดๆทั้งหน้าผาและน้ำตก เย็นฉ่ำชุ่มชื้นที่ไหนมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่นั้นมีน้ำตก เอาให้ครบทุกมุมสวยงามใหญ่โตมโหฬารดีแท้

น้ำตกวชิรธาร เดิมชื่อ “ตาดฆ้องโยง” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่เกิดจากลำห้วยแม่กลาง สูงประมาณ 70-80 เมตร ตัวน้ำตกอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร สายน้ำไหลตกจากหน้าผาลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ในยามแสงอาทิตย์ส่อง กระทบละอองน้ำจะปรากฏสายรุ้งงดงามเหนือธารน้ำ ตรงข้ามมีหน้าผาสูงชัน เรียกว่า “ผาม่อนแก้ว” หรือในภายหลังเรียกว่า “ผาแว่นแก้ว” การเดินทางลงสู่น้ำตกวชิรธาร ตัวน้ำตกตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ 81.2 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 20.7 ของทางหลวงหมายเลข 1009 (สายจอมทอง – ดอยอินทนนท์) มีทางแยกขวามือ ขับรถไปตามถนนที่คดเคี้ยวไปอีกประมาณ 250 เมตร จึงถึงน้ำตกวชิรธาร

น้ำตกสิริธาร เดิมมีชื่อว่า “น้ำตกป่าคา” ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ท่านทรงพระราชทานนามให้น้ำตกแห่งนี้ว่า “สิริธาร” น้ำตกสิริธาร ตั้งอยู่ประมาณ กม. 22 ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ห่างจากตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ 81 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวง 108 (เชียงใหม่ – ฮอด) ประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 1009 (สายจอมทอง – ดอยอินทนนท์) ประมาณ 23 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเป็นทางเดินเท้าเดินสบาย สู่จุดชมวิวน้ำตกสิริธารในระยะทาง 100 เมตร

จากนั้นต่อมาเราไปน้ำตกที่สองกันชื่อว่า น้ำตกสิริธาร ห่างจากน้ำตกวชิรธารไม่ไกลมากนัก เมื่อถึงแล้วก็เดินเข้าไปไม่ไกลก็ถึงจุดชมวิว น้ำตกสิริธาร เป็นน้ำตกที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จมาชมสองครั้งและพระราชทานนามให้ชื่อว่า สิริธาร ถือว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกน้ำตกแต่ต้องมองไปไกลๆ น้ำตกไหลลงมาเป็นชั้นๆไม่เหมือนกับน้ำตกวชิรธารที่ตกลงจากที่สูงๆใหญ้โตอลังการ แต่ก็มีเสน่ห์เป็นแบบเฉพาะเหมือนกันแวะชมน้ำตกกันได้ไม่ไกลจากน้ำตกวชิรธาร

รูปป่าสน

จากนั้นเราเดินทางต่อไปที่ลานกางเต็นท์ดงสน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นพื้นที่กางเต็นท์ที่อยู่ในป่าสน พื้นที่ดินไม่ราบเรียบแต่เป็นเนินโดยมีต้นสนสูงใหญ่ช่วยให้ร่มเงา คล้ายกับ ลานกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า วีโคเลือกจุดกางเต็นท์โดยขับรถวนดูก่อน จากนั้นก็เดินหาพื้นที่ที่จะเหมาะในการกางเต็นท์ หาอยู่นานพอควรเพราะพื้นที่เป็นเนินไม่ราบเรียบน่าจะได้บรรยากาศการนอนแบบนอนบนเนิน ก้นดันเนินไม่ให้ไหลลื่น จุดที่เหมาะสมต้องเดินไปห้องน้ำไม่ไกลมากนัก ถ้าจอดรถได้ใกล้จะดีมากเพราะต้องขนอุปกรณ์เต็นท์หนักอยู่ และที่สำคัญต้องนอนสบาย เอาละเมื่อได้จุดที่ตั้งแล้วก็เปิดแอพเข็มทิศในไอโฟน เขย่าดูทิศทางสักที ก่อนทำการกางเต็นท์ว่าจะหันไปด้านไหน หัวอยู่ด้านไหนดีไรแบบนี้ครับ เมื่อได้ทิศแล้วก็เอาละ เริ่ม! ใช้ผ้าใบรองเต็นท์กันน้ำไว้รองพื้นล่างสุด ทดลองนอนดู ปรากฎเจอหินเจอหลุม ก็ทำการขยับผ้าใบให้ที่ๆเรานอนไม่เจอก้อนหินแหลมๆ ก้อนหินใหญ่ๆ หรือ หลุมลึกๆเมื่อได้ที่ ขยับได้ตำแหน่งก็ตอกสมอบกยึดทั้่งสี่ด้านของผ้าใบให้อยู่กับที่ จากนั้นก็กางเต็นท์ แล้วอีกอย่างที่ยากคือ การกางหลังคาหรือฟายเออร์ วีโคซื้อผ้าใบแล้วมาดัดแปลงใช้ ไม่ได้ซื้อแบบสำเร็จรูป เราทำการกางฟายเออร์ใช้เสายาวสองเมตรอยู่ด้านหน้า ด้านหลังเสายาวหนึ่งจุดห้าเมตร เป็นรูปทรงหน้ายกสูงเปิดกว้าง ด้านหลังเตี้ยลง แต่กว่าจะตั้งเสาได้ก็ใช้เวลาพอสมควร มีต้นสนช่วยให้ง่ายขึ้นแต่โดยรวม รอบนี้วีโคทำฟายเออร์ได้ดีกว่าครั้งก่อนๆ จากนั้นก็ขนอุปกรณ์เครื่องนอน แผ่นรองนอน ผ้านวม หมอน โคมไฟ ถุงนอน พัดลม (รอบนี้ไม่ได้เอามาเพราะคาดว่าไม่น่าจะได้ใช้เพราะหนาว) และกางเสื่อหน้าเต็นท์ไว้นั่งเล่น มีขาตั้งกล้องติดโคมไฟไว้หน้าเต็นท์อีก รอบนี้ขนมน้ำต่างๆจะใช้กล่องพลาสติกปิดสนิทเก็บอาหารไว้ เพราะครั้งก่อนหน้า ไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจอเม่นยักษ์มาคาบข้าวโพดต้มไปกินตอนตีสาม เจอลิงตบขวดเป็ปซี่ไปกินตอนเช้าตรู่แล้วร้องอ้าาา…(สงสัยซดทีเดียวหมดขวด มีซากขวดอยู่ไม่ไกล ลิงใช้ฟันเจอะรูที่ฝาขวด) ตอนเช้าเจอลิงตบขวดน้ำส้มหนีขึ้นต้นไม้ไป เพราะเราเล่นวาง ขนม เครื่องดื่มเรียงไว้หน้าเต็นท์ เหมือนเป็น บาร์ค็อกเทลปาร์ตี้ให้สัตว์ป่า รอบนี้เลยเก็บใส่กล่องพลาสติกปิดฝาแน่นหนา ฮาาาา แต่ที่นี้ไม่มีสัตว์ป่า กวางก็ไม่เห็นสักตัว 555

เมื่อวีโคทำการกางเต็นท์เสร็จเรียบร้อยสวยงามแล้วก็ต้องรีบไปอาบน้ำแต่นั้นก็มืดซะละ น้ำเย็นมากกกกเหมือนเอาน้ำผสมน้ำแข็งมาอาบ ถูสบู่แล้วล้างก็ไม่ค่อยออก ยากนิดนึงเป็นแบบฉบับการอาบน้ำที่อุทยานแห่งชาติ ประมาณอาบน้ำจากน้ำตกเย็นเจี๊ยบ แต่ที่นี่จะเหมือนกับอาบน้ำด้วยน้ำตกผสมน้ำแข็งเข้าไปด้วย เย็นมากแค่ล้างมือก็เย็นละ ห้องน้ำโดยรวมถือว่าดีตามแบบฉบับของอุทยานแห่งชาติ แต่สายฝักบัวบิดงอ อาจต้องทำการติดตั้งให้ดีขึ้น ตัวยึดฝักบัวหลุดต้องทำการยึดให้แน่น และจุดแขวนผ้ามีน้อยไม่ค่อยสะดวกนัก แต่เป็นแค่เพียงจุดเล็กๆ ภาพรวมห้องน้ำสะอาดและใหม่ดี เมื่ออาบน้ำเสร็จก็นั่งเล่นหน้าเต็นท์สักพักแต่อากาศหนาว นั่งได้ไม่นานก็รีบเข้าเต็นท์นอนพัก พรุ่งนี้เรายังมีโปรแกรมอีกแน่นเพียบบนดอยอินทนนท์

รุ่งขี้นวีโคเดินทางไปจุดสูงสุดของดอยอินทนนท์กันก่อน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นสถานีเรดาร์กองทัพอากาศ ดอยอินทนนท์ ช่วงปีใหม่มีตลาดนัดหย่อมๆให้นักท่องเที่ยวมาแวะช้อปปิ้งกัน จากนั้นวีโคก็เดินทางไปหาป้ายจุดสูงสุดแดนสยาม ซึ่งอยู่ในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มาถึงแล้วนะ จุดสูงสุดของประเทศไทย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขับรถมาด้วยตัวเอง ครั้งก่อนไม่ได้ขับรถมาเอง วีโคเดินเล่นถ่ายภาพบริเวณจุดสูงสุดแดนสยามกันสักพักใหญ่ ข้อมูลเพิ่มเติมจุดสูงที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ระดับความสูง 2,565.3341 เมตรจากระดับน้ำทะเล อยู่บนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ต่อไปที่วีโคจะพาไปเที่ยวคือ พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ ค่าเข้า 50 บาท คนต่างชาติ 100 บาท เราสามารถวนรถเข้าไปส่งคนได้ แต่ไม่ให้รถเข้าไปจอดจะต้องวนออกมาจอดด้านนอก แล้วนั่งรถวนฟรีพาเข้าไปส่ง

  • พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ

รูปเจดีย์

ข้อมูลเพิ่มเติมพระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ

พระมหาธาตุนภเมทนีดล (สีน้ำตาล) ประดิษฐานอยู่บนที่สูงสุดในพระราชอาณาจักรไทย เคียงคู่กับ พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ (สีม่วงอมชมพู) ตั้งอยู่บนกิโลเมตรที่ 41.5 ทางด้านซ้ายมือ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช 2530 และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช 2535

  • ข้อมูลเพิ่มเติมพระมหาธาตุนภเมทนีดล

พระมหาธาตุนภเมทนีดล มีความหมายว่า “พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน” ถือเป็นพระมหาสถูปเจดีย์องค์แรกที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 60 เมตร องค์พระมหาสถูปเจดีย์มีสัณฐานทรงระฆัง 8 เหลี่ยม มีลวดลายแบ่งออกเป็น 3 ช่วง แทนพระบารมี 3 ขั้นตอนที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญ อันประกอบด้วย บารมีขั้นแรก 10 ขั้น อุปบารมี 10 ขั้น และปรมัตถบารมี 10 ขั้น รวมเป็น บารมี 30 ทัศ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร จำหลักด้วยหินแกรนิตสีเขียวอมเทา ผนังห้องโถงประดับด้วยภาพศิลาจำหลัก แบบนูนต่ำ 4 ภาพใหญ่ แสดงพุทธประวัติ 4 ตอนสำคัญ คือ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน

  • ข้อมูลเพิ่มเติมพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

รูปพระปางรำพึง

พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ มีความหมายว่า “เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน” รูปทรง ๑๒ เหลี่ยม องค์เจดีย์ประดับโมเสกแก้วสีม่วงอมชมพูสีเดียวกันตลอดทั้งองค์ ที่ส่วนยอดขององค์เจดีย์เป็นยอดปลีล้อมด้วยกลีบดอกบัวตูม ประดับด้วยโมเสกแก้วสีทอง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กั้นด้วยฉัตรสีเงิน ๙ ชั้น ภายในเจดีย์มีพระพุทธรูปปางรำพึง ประทับยืนบนดอกบัว ประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นพระประจำวันศุกร์ อันเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แกะสลักด้วยหินหยกขาว

จากนั้นเราไปต่อกัน ขึ้นมาแล้วต้องไปให้สุด จะไปดูดอกซากุระ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) ขึ้นดอยอินทนนท์ไปสุดๆกัน เส้นทางลาดชันคดเคี้ยวหวาดเสียวมากกว่าเดิมกว่าจะไปถึง สุดยอดสนุกขับพวงมาลัยแบบเล่นเกมส์ แต่เดี๋ยวก่อน อันนี้ของจริงพลาดตายนะครับ หมุนพวงมาลัยไปมาตามเส้นทางคดเคี้ยว สับเกียร์ให้สัมพันธ์กับความชันเพื่อรักษาความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเราสามารถควบคุมรถได้ เส้นทางมองออกไปเห็นหน้าผาสูง น่าหวาดเสียว มือก็หมุนพวงมาลัยไปตามเส้นทางคดเคี้ยวแล้วต้องวิ่งในเส้นอย่าล้ำเส้นไปอีกด้านนะ โดยเฉพาะทางลาดชันขาลงเพราะรถจะวิ่งเร็วมาก ความเร็วที่เพิ่มตามแรงโน้มถ่วงโลกบวกกับมวลของรถทั้งคัน เมื่อรวมกันความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแต่วีโคใช้เกียร์ต่ำเพื่อทดรอบเครื่องลดความเร็วจึงจะคุมรถอยู่ แต่ก็สนุกและตื่นเต้นดี ความคดเคี้ยว ความราดชัน ความสูงของวิวหน้าผาบนภูเขา ความเร็วตอนลงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเราต้องเข้าโค้งอีก ฮาาา รอดมาได้… ถ้าเป็นภูทับเบิก ขึ้นหลังติดเบาะ ลงหน้าทิ่ม ฮาาา แต่วันอื่นยังมีอีกนะ ติดตามอ่านต่อไปครับ กลับมาเข้าเรื่องแล้วดอกซากุระละสวยไหม เพิ่งบานครับ มีนะไม่เยอะมาก ดอกซุการะกำลังบาน 555

รูปขุนวาง

วันต่อมาเราลงมาพักโรงแรมเชียงใหม่สี่ดาว แถวถนนนิมมาน จากอากาศหนาวๆ ลงมาร้อนเลยครับ แถมรถติดเหมือนกรุงเทพอีก วีโคดันไปพักแถวนิมมานแหล่งท่องเที่ยว คนต่างชาติเยอะแต่ใกล้เมืองเดินทางสะดวก เลือกโรงแรมนี้เพราะมีสระว่ายน้ำใหญ่ดี เผื่อว่างๆจะได้มาว่ายน้ำ ตอนอยู่บนดอยอินทนนท์หนาวคิดว่าคงไม่ได้ว่ายน้ำแต่ลงมาตัวเมืองเชียงใหม่ ร้อนฮะ คืนนี้นอนก่อนดีกว่า บั๊ยบายนอนหลับฝันดีครับท่านผู้ชม พรุ่งนี้วีโคจะพาขึ้นเขาอีก…

วันต่อมาสายๆหลังทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์เสร็จ เราก็เริ่มเดินทางต่อขึ้นดอยสุเทพ ผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ แล้วขึ้นเขาเส้นทางคดเคี้ยวแต่ถนนดีนะ เมื่อเราไปถึงพระธาตุดอยสุเทพ ไม่มีที่จอดรถ งั้นไปกันต่อ ไปถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ไม่มีที่จอดรถ งั้นไปต่อเส้นทางนี้ไม่ง่ายละ ถนนมีเลนกว่าๆเวลามีรถสวนจะยากมาก เพราะถนนไม่พอต้องค่อยๆไป เวลามีรถสวนก็จะหวาดเสียว เพราะอีกด้านจะเป็นหน้าผาต้องระวัง บางช่วงของถนนมีชำรุดปิดซ่อมด้วยทำให้พื้นที่ถนนเหลือน้อยลงอีก เส้นทางคดเคี้ยวแบบอ้อมเขามองไม่เห็นทางข้างหน้า ต้องกดแตรให้สัญญาณตลอดทางกว่าจะถึง อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นลานกางเต็นท์ที่บรรยากาศสวยงามร่มรื่น ห้องน้ำสะอาด วีโคแวะพักรับประทานอาหารกลางวัน มีอาหารตามสั่ง และลูกชิ้นไส้กรอกทอดไว้ให้บริการ ตอนทานข้าวสอบถามนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับทางไป ขุนช่างเคี่ยน ว่าไปไกลไหม มีทางกลับรถวนกลับมาไหม ในใจก็ไม่อยากไปต่อเท่าไหร่ เพราะขับรถยากอันตรายอยู่ แต่ไปทั้งทีต้องไปให้สุดอีกไม่ไกลแล้วงั้นไปกันดีกว่า

หลังรับประทานอาหารเสร็จเราก็ไปกันต่อ มาแล้วไปให้สุด ยอดดอยแห่งดอกนางพญาเสือโคร่ง ขุนช่างเคี่ยน แต่ดอกนางพญาเสือโคร่งยังไม่บาน วีโคนั่งดื่มโกโก้เย็นดูบรรยากาศหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน แล้วคุยกับไกด์ที่พานักท่องเที่ยวเวียดนามมาได้ความว่า โดยปกติดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานให้คนชมแค่เพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้นเอง ผมก็ถามว่าอาทิตย์เดียวเองเหรอแล้วก็มองไปที่ต้นดอกนางพญาเสือโคร่งซึ่งตอนนี้มีแต่กิ่งแห้งไม่มีใบและดอก แต่ถ้าดอกออกคงสวยน่าดูที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ก็เห็นมีอยู่ โดยปกติดอกจะบานช่วงที่เราไปนี้ละ แต่ปีนี้บานช้า น่าจะมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ช่วงเวลาบานเปลี่ยนไป ดังนั้นต้องช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะครับ แล้วก็มองไปดูที่สวนสตอเบอรี่ที่เป็นขั้นบันไดกับไก่ที่เกาะบนกิ่งไม้รอบๆบ้าน

จากนั้นเราก็ขับรถต่อเข้าไปในหมู่บ้านแต่ก็ไม่มีไร ยิ่งขับเข้าไปก็ลึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะเข้าป่า(อเมซอน)ไปซะก่อนกลับรถวนกลับดีกว่า จากนั้นวีโคก็กลับลงมาจนถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ รอบนี้มีรถออกพอดี เย้!มีที่จอดรถแล้ว ก็เลยได้เข้าไปดูสวนดอกไม้ มีดอกไม้สวยๆมากมาย มีสวนดอกกุหลาบ มีต้นไม้นานาพันธ์ ที่มีการดูแลอย่างดี อากาศก็เย็นสบายเป็นระเบียบเรียบร้อยดี หลังจากเราเดินดูสวนดอกไม้เสร็จ จนตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ปิด

รูปตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

วีโคก็ลงไปทำบุญไหว้พระต่อที่พระธาตุดอยสุเทพ แล้วก็โชคดีอีกเช่นเคยได้ที่จอดรถ ฮาา ตอนมาไม่มีตอนกลับมีให้เราได้ขึ้นไปทำบุญไหว้พระธาตุดอยสุเทพซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรมะแมหรือปีแพะนั้นเอง ถามว่าเคยมาไหมเคยมาหลายครั้งแล้วครับ แต่ครั้งนี้ขับรถมาเอง เดินขึ้นคงเหนื่อยงั้นเราไปรถรางขึ้นไปที่พระธาตุเลยดีกว่า ค่ารถรางขึ้นและลงคนไทยคนละ 20 บาท เราก็ไปถึงแล้ว เอาละเมื่อมาถึงแล้วก็มีโอกาสได้ทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา พระให้พรประพรมน้ำมนต์ผูกสายสิญจน์ให้ด้วย ดีครับ

ได้มีโอกาสทำบุญและถ่ายรูปชมความสวยงามของวัด พระธาตุดอยสุเทพรับบริจาคทองคำ เพื่อสร้างพระธาตุดอยสุเทพทองคำ

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสนใจทำบุญเดินทางไปทำบุญกันได้นะครับ โดยทองจะเป็นชิ้นเล็กๆใส่ไว้ซองและมีเลขระบุไว้

วีโคได้ซองเลข 68 สงสัยจะได้เลขเด็ดแต่ออกงวดไหนก็ไม่รู้นี้สิ ฮา แต่ละซองก็จะมีทองคำชิ้นเล็กๆ ทำบุญกันคนละนิดหลายๆคนก็เป็นจำนวนมาก ขอให้เรายินดีที่จะทำบุญไม่ว่าจะก่อน ขณะ หรือทำบุญไปแล้ว รวมทั้งสิ่งที่เราทำบุญได้มาโดยสุจริตก็พอครับ เพื่อนคนไหนอยากรู้เรื่องการทำบุญอ่านได้ครับ #ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญมาก

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย วัดมีความสูงจากระดับที่ราบเชียงใหม่ราว 689 เมตร และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,046 เมตร เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นเมืองเชียงใหม่ได้ทั้งหมด

หลังจากเที่ยวเชียงใหม่เสร็จก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ แล้วมาพบกันใหม่ตอนหน้านะครับ ส่วนจะไปเที่ยวที่ไหนติดตามกันตอนต่อไปครับ

ข้อแนะนำ -ตรวจสภาพรถให้พร้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบเบรค ระบบการใช้เกียร์ต่ำ ระบบหล่อเย็น ยางรถยนต์และยางสำรอง – นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอให้พร้อมกับการขับรถลาดชันคดเคี้ยว – ทำความเข้าใจการใช้ระบบเกียร์ต่ำเพื่อลดการใช้เบรคไม่งั้นเบรคอาจไหม้หรือเบรคแตกได้เพราะทางลาดชันมาก

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

  • ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญมาก
  • 12 นักษัตร 12 พระธาตุ
  • พระเครื่องชุดเบญจภาคี
  • วิธีเตรียมรถเดินทางไกล ขึ้นภูเขาเส้นทางคดเคี้ยวลาดชัน
  • เปรียบเทียบการขับรถขึ้นเขาระหว่าง ภูทับเบิก กับ ดอยอินทนนท์

อ้างอิง

 840 total views,  1 views today