ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญมาก

Share this article

ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญมาก

การทำบุญคืออะไร ทำไมต้องทำบุญ ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญมาก วีโคเกิดข้อสงสัยจึงไปหาคำตอบ เพราะโดยพื้นฐานผมเรียนจบมาจากโรงเรียนคริสต์ตั้งแต่ประถมหนึ่งจนเข้ามหาวิทยาลัย ศาสนาคริสต์ สอนคำว่าการให้หรือการบริจาค คือ การอยากช่วยเหลือผู้อื่น ให้โดยไม่ได้คิดว่าจะได้อะไรกลับคืนมา ให้เพราะอยากให้ ให้เพราะอยากช่วยเหลือ โดยในช่วงเดือนวันคริสต์มาส โรงเรียนก็จะมีให้หยอดเงินลงกระปุกคนละ 1 บาท แล้วนำเงินในกระปุกของแต่ละห้องเรียนไปบริจาค นั้นคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก แต่จริงๆแล้วบ้านผมนับถือศาสนาพุทธ จึงจะได้ยินคำว่าไปทำบุญ ทำบุญ อยู่บ่อยๆ ผมจึงเกิดข้อสงสัยว่า การทำบุญคืออะไร ทำยังไงได้บุญมาก แล้วบุญมันคืออะไรกันแน่ จึงลองไปถามคนอื่นดูว่า บุญคืออะไร ทำไมต้องทำบุญ ซึ่งได้คำตอบมาหลากหลาย ประมาณว่า ถ้าเราทำบุญไปแล้ว เวลาเราตกต่ำก็จะมีคนมาช่วยเหลือ หรือ เวลาเราทุกข์ยาก ตกอับ มันจะมีบุญมาช่วยให้เรารอดพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้โดยไม่ลำบาก

หลังจากผมฟังมาจากหลายคน ก็ยังสงสัยอยู่ดี แล้วเคยได้ยินคำว่า “ยิ่งให้ยิ่งได้” มาอีก เลยยิ่งเกิดข้อสงสัยตามมาว่า แบบนี้คนรวยมีทรัพย์เยอะ ยิ่งให้ก็ยิ่งได้สิ หรือ มีทรัพย์ทำบุญมากก็ยิ่งได้บุญมาก ก็ยิ่งทำให้รวยมากตามไปด้วย แล้วถ้าเราไม่ได้รวย ทำบุญไม่มากแต่จะได้บุญมากต้องทำอย่างไร เป็นไปได้ไหม สรุปแล้ว การทำบุญคืออะไร ทำยังไงให้ได้บุญมาก เลยไปหาหนังสือเพื่อมาศึกษาเพิ่มเติม หาอยู่นาน จนไปเจอหนังสือเล่มนึงเข้า โอ้ตอบโจทย์สิ่งที่ผมสงสัยได้ด้วย หนังสือเล่มนั้นชื่อ วิธีสร้างบุญบารมี สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ท่านผู้อ่านสามารถอ่านได้ด้วยตัวเอง โดยมีลิงค์หนังสืออยู่ด้านล่างบทความนี้

อันนี้เป็นการสรุปตามความเข้าใจของวีโค โดยการทำบุญจะมีสามจังหวะ ชะ ชะ ช่า คือ ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ ผู้ให้ต้องมีความสุขใจที่จะให้โดยไม่เสียดาย ทั้งก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ไปแล้ว โดยสิ่งของที่จะให้ ผู้ให้ต้องได้มาโดยสุจริต ไม่ขโมยใครมา แล้วให้กับผู้รับที่เหมาะสม

ตัวอย่าง  การทำบุญบริจาคเงิน โดยนาย ก เป็นผู้ให้ และนาย ข เป็นผู้รับ

  1. นาย ก คือผู้ให้โดยใจจริงอยากจะบริจาคเงินแค่ 100 บาท แต่อยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูง เพื่อนบริจาคกันคนละ 1,000 บาท ทำให้นาย ก บริจาคเงิน 1,000 บาท ตามเพื่อน ในใจก็คิดเสียดายตั้งแต่ ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ไปแล้ว แถมยังต้องประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นทำให้ตัวเองลำบากด้วย
  2. นาย ก ตั้งใจบริจาคเงิน 1,000 บาท แต่ตัวเองมีเงินเพียง 100บาท จึงไปขโมยเงินแม่มาจำนวน 900 บาท เพื่อจะสามารถนำเงินไปบริจาคให้นาย ข ได้ครบ 1,000 บาท

ทั้งสองข้อถิอว่าเป็นการทำบุญที่ไม่ครบองค์ประกอบแห่งการทำบุญ ทำให้ทำบุญไปแล้วอาจไม่ได้รับความสุขใจ แล้วลำดับการทำบุญที่ได้บุญมากบุญน้อยเป็นอย่างไร

ทาน

สัตว์ > คนไม่ถือศีล > คนถือศีล 5 > พระสงฆ์ถือศีล227ข้อ > ระดับพระสงฆ์ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงพระอรหันต์ > พระพุทธเจ้า > ศาลา สิ่งก่อสร้างที่เป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก > อภัยทาน

ลำดับแสดงการทำบุญที่ให้บุญน้อยไปถึงบุญมากขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่า การทำบุญที่ให้บุญมากคือการทำบุญกับคนดี ซึ่งคนดีจะทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกเป็นวงกว้าง และในทางพระพุทธศาสนาการเป็นคนดีวัดจากการถือศีล ถือศีลมากเป็นคนดีมากตามไปด้วย ต่อมา การร่วมทำบุญสร้างสิ่งก่อสร้างที่เป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก ตัวอย่างเช่น ศาลาพักริมทาง โรงพยาบาล จนกระทั่งการทำบุญที่ให้ผลบุญสูงสุดในระดับ ทาน คือ การให้อภัยไม่ผูกโกรธ ไม่ผูกพยาบาท ยกโทษให้ ซึ่งส่งผลดีกับตัวเราเอง เมื่อเราโกรธ ผูกพยาบาท ทำให้เราร้อน คิดมาก ไม่มีความสุข การให้อภัย ไม่ผูกโกรธ ทำให้เรามีความสุข ส่วนผู้ที่กระทำเรา เค้าจะได้รับผลแห่งกรรมตามกฎแห่งกรรมโดยที่เราไม่จำเป็นต้องโกรธและผูกพยาบาท ให้อภัย ปลดปล่อยตัวเราออกจากความแค้น ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น รวมทั้งเป็นการทำบุญในระดับทานขั้นสูงสุด โดยไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว

ศีล

การรักษาศีลคือการไม่ประพฤติปฏิบัติบางอย่าง ทำให้เราละเว้นความชั่ว ทำให้เราไม่สร้างกรรมที่ไม่ดี เช่น การไม่ฆ่าสัตว์ เราไม่กระทำการฆ่าสัตว์ทำให้ไม่เกิดกรรม ทำให้ละเว้นจากกรรมนั้นๆได้

ภาวนา

การฝึกสมาธิคือ การทำให้จิตเราสัมผัสกับเหตุการณ์ปัจจุบันมากกว่าแต่ก่อนที่เคยเป็น ไม่คิดสิ่งที่ไม่ดี ทำให้มีสติ เมื่อมีสติ ปัญญาก็จะเกิดตามมาด้วย

ระดับขั้นจาก น้อยไปมาก คือ ทาน > ศีล > ภาวนา

สรุป ในมุมมองของวีโคคิดว่า การทำบุญที่ให้ความสุขอิ่มเอมใจคือ การให้ด้วยความเต็มใจไม่ว่าจะเป็น ก่อนให้ ขณะให้ หลังให้ไปแล้ว และสิ่งที่ให้นั้นต้องได้มาโดยสุจริต ให้กับคนที่อยากได้ สมควรได้รับ และสามารถรับสิ่งนั้นได้ด้วยความสุขใจ ส่วนการทำบุญให้ได้บุญมาก คือการทำบุญกับคนดี หรือสิ่งที่ส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง สร้างประโยชน์ให้กับคนหมู่มาก สร้างประโยชน์ต่อสังคม เป็นการส่งผลต่อเนื่องยาวนาน เป็นการส่งผลกระทบเชิงบวกแบบเพิ่มปริมาณหรือทวีคูณโดยการทำบุญที่ดีต้องทำให้หลากหลายซึ่งจะส่งผลบุญให้มีความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน

ขอขอบคุณ

 1,727 total views,  1 views today