4 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์

Share this article

4 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์

หลายอุตสาหกรรมโดน disruptive technology คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ เกิดการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้งานบางชนิดต้องลดคนทำงานลง และสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ได้ ไม่เว้นแม้แต่สื่อโฆษณา ที่แต่ก่อนเราอยากดูละครต้องมารอหน้าโทรทัศน์ช่วงสองทุ่ม พร้อมหน้าพร้อมตากันหน้าโทรทัศน์ เกิดสังคมขนาดย่อย เกิดการปฏิสัมพันธ์กัน เกิดความสัมพันธ์กัน เกิดการพูดคุยถกเถียงกัน เพื่อรอชมละครที่สนุกน่าติดตามไม่ให้พลาดแม้แต่ตอนเดียว ซึ่งส่งผลต่อค่าโฆษณาในช่วงพาร์มทาม ทำให้ค่าโฆษณาในช่วงดังกล่าวมีราคาแพงเพราะมีผู้ชมช่วงดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ไม่ต้องรอเหมือนเมื่อก่อน จะเปิดดูละครตอนไหนก็ได้ ย้อนหลังก็ได้ ไม่ได้ดูช่วงออกอากาศก็ดูหลังจากนั้นได้แบบสบายๆ ผ่านอุปกรณ์ต่างๆได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเดินทางอยู่ก็เปิดดูได้ ดังนั้นการทำการตลาดออนไลน์จึงเข้ามาแทนที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเราจะมีวิธีอะไรหรือกลยุทธ์การตลาดอะไรในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรา ซึ่งถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงโฆษณาของเราได้อย่างไรกันบ้าง?

4กลยุทธ์การตลาดอนไลน์ที่กล่าวถึง ประกอบไปด้วย กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และ กลยุทธ์ที่ใช้

กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลยุทธ์
  • สร้างการตระหนักรับรู้แบรนด์สินค้า โดยการแสดงภาพ สี องค์ประกอบ แสดงซ้ำๆ ผ่านช่องทางที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าถึงบ่อยๆ ซ้ำๆ จนเกิดการจดจำ
CPM
  • เพิ่มจำนวนยอดผู้เข้าชม เพิ่มจำนวนทราฟฟิก เข้าเว็บไซต์ หรือ Landing Page ที่ต้องการ
CPC
  • เพิ่มยอดขาย หรือ สิ่งที่ต้องการให้ผู้ใช้งานกระทำ เช่น เพิ่มให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กรอกแบบฟอร์มเพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลและนำไปสู่การขายสินค้าหรือบริการ
CPA
  • เพิ่มผลตอบแทนการลงทุน (ROI) เมื่อกลุ่มลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าสามารถนำตัวเลขมาคำนวณ ผลตอบแทนการลงทุนได้
CPA

ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดออนไลน์

  • CPM : Cost Per Mile คือ ค่าใช้จ่ายต่อการแสดงโฆษณาจำนวน 1,000 ครั้ง ตัวอย่าง ระบบขึ้นโฆษณาแสดงต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จำนวน 1,000 ครั้ง ก็จะมีการคิดค่าใช้จ่ายแบบ CPM
  • CPC : Cost Per Click คือ ค่าใช้จ่ายต่อการคลิ๊ก ในที่นี่จะนับการคลิ๊กแบบเป็นอิสระเป็นคนๆที่ไม่ใช้คนเดิมมากดซ้ำ (individual) โดยจะแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้งานกดโฆษณาเข้ามาเพื่อไปหน้าที่เราต้องการ
  • CPA : Cost Per Acquisition คือ ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาต่อการกระทำที่ต้องการ ตัวอย่าง เมื่อผู้สนใจคลิ๊กโฆษณาผ่านเข้ามาจากนั้นทำการสั่งซื้อสินค้าจนกระทั่งชำระเงินสำเร็จ ถือว่าสำเร็จจำนวน 1 ครั้งก็จะคิดโฆษณาตามที่ตกลง ซึ่งจะสามารถนำมาคำนวนค่าผลตอบแทนการลงทุน(ROI)ได้

สรุป การทำการตลาดออนไลน์ (digital marketing) ต้องเลือกใช้กลยุทธ์ และ วิธีการในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ตรงกลุ่มและใช้วิธีการโฆษณาให้ตรงวัตถุประสงค์ที่ต้องการเพื่อทำให้งบประมาณที่ลงไปเกิดผลคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

 1,527 total views,  1 views today